วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนรู้วิชาเรียนรวม ครั้งที่ 3

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 3
วันพุธ ที่25 มกราคม 2560 (เวลา : 09.00-12.30 น.)

เนื้อหาการเรียนการสอน
4. เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา (Children with Speech and Language Disorders)

เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูด
        หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการพูดผิดปกติ ในด้านความชัดเจนในการปรับปรุงแต่งระดับและคุณภาพของเสียง จังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
1. ความบกพร่องในด้านการปรุงเสียง (Articulator Disorders) 
เสียงบางส่วนของคำขาดหายไป "ความ" เป็น "คาม"
ออกเสียงของตัวอื่นแทนตัวที่ถูกต้อง "กิน" "จิน"  กวาด ฟาด
เพิ่มเสียงที่ไม่ใช่เสียงที่ถูกต้องลงไปด้วย "หกล้ม" เป็น "หก-กะ-ล้ม"
เสียงเพี้ยนหรือแปล่ง "แล้ว" เป็น "แล่ว"
2. ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด (speech Flow Disorders)
พูดไม่ถูกตามลำดับขั้นตอน ไม่เป็นไปตามโครงสร้างของภาษา
การเว้นวรรคตอนไม่ถูกต้อง
อัตราการพูดเร็วหรือช้าเกินไป
จังหวะของเสียงพูดผิดปกติ
เสียงพูดขาดความต่อเนื่อง สละสลวย
3. ความบกพร่องของเสียงพูด (Voice Disorders) 
ความบกพร่องของระดับเสียง
เสียงดังหรือค่อยเกินไป
คุณภาพของเสียงไม่ดี

ความบกพร่องทางภาษา 
            หมายถึง การขาดความสามารถที่จะเข้าใจความหมายของคำพูด และ/หรือไม่สามารถแสดงความคิดออกมาเป็นถ้อยคำได้
1. การพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าวัย (Delayed Language)  
มีความยากลำบากในการใช้ภาษา
มีความผิดปกติของไวยากรณ์และโครงสร้างของประโยค
ไม่สามารถสร้างประโยคได้
มีความบกพร่องทางเชาว์ปัญญา อารมณ์ สมองผิดปกติ
ภาษาที่ใช้เป็นภาษาห้วน ๆ
2. ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง โดยทั่วไปเรียกว่าDysphasia หรือ aphasia 
อ่านไม่ออก (alexia)
เขียนไม่ได้ (agraphia )
สะกดคำไม่ได้
ใช้ภาษาสับสนยุ่งเหยิง
จำคำหรือประโยคไม่ได้
ไม่เข้าใจคำสั่ง
พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้
Gerstmann’s syndrome 
- ไม่รู้ชื่อนิ้ว (finger agnosia)
- ไม่รู้ซ้ายขวา (allochiria)
- คำนวณไม่ได้ (acalculia)
- เขียนไม่ได้ (agraphia)
- อ่านไม่ออก (alexia)


ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการพูดและภาษา 
ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรมชาติ ร้องไห้เบา ๆ และอ่อนแรง
ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ 10 เดือน
ไม่พูดภายในอายุ 2 ขวบ
หลัง 3 ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กก็ยังฟังเข้าใจยาก
ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
หลัง 5 ขวบ เด็กยังคงใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา
มีปัญหาในการสื่อความหมาย พูดตะกุกตะกัก
ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย
5. เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ 
(Children with Physical and Health Impairments)
เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป
เจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรง
มีปัญหาทางระบบประสาท
มีความลำบากในการเคลื่อนไหว
โรคลมชัก (Epilepsy)
เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง
มีกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติและมากเกินปล่อยออกมาจากเซลล์สมองพร้อมกัน
1.การชักในช่วงเวลาสั้น ๆ (Petit Mal)
อาการเหม่อนิ่งเป็นเวลา 5-10วินาที
มีการกระพริบตาหรืออาจมีเคี้ยวปาก
เมื่อเกิดอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในท่าก่อนชัก
เด็กจะนั่งเฉย หรือเด็กอาจจะตัวสั่นเล็กน้อย
2.การชักแบบรุนแรง (Grand Mal)
เมื่อเกิดอาการชัก เด็กจะส่งเสียง หมดความรู้สึก ล้มลง กล้ามเนื้อเกร็ง เกิดขึ้นราว 2-5 นาที จากนั้นจะหาย และนอนหลับไปชั่วครู
3.อาการชักแบบ Partial Complex
มีอาการประมาณไม่เกิน 3 นาที
เหม่อนิ่ง 
เหมือนรู้สึกตัวแต่ไม่รับรู้และไม่ตอบสนองต่อคำพูด
หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ และต้องการนอนพัก
4.อาการไม่รู้สึกตัว (Focal Partial)
เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น เด็กไม่รู้สึกตัว อาจทำอะไรบางอย่างโดยที่ตัวเองไม่รู้ เช่น ร้องเพลง ดึงเสื้อผ้า เดินเหม่อลอย แต่ไม่มีอาการชัก
5.ลมบ้าหมู (Grand Mal)
เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึกในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็งหรือแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น 
การปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐาน ในกรณีเด็กมีอาการชัก
จับเด็กนอนตะแคงขวาบนพื้นราบที่ไม่มีของแข็ง
ไม่จับยึดตัวเด็กขณะชัก
หาหมอนหรือสิ่งนุ่มๆรองศีรษะ
ดูดน้ำลาย เสมหะ เศษอาหารออกจากปาก เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
จัดเสื้อผ้าเด็กให้หลวม
ห้ามนำวัตถุใดๆใส่ในปาก
ทำการช่วยหายใจโดยวิธีการเป่าปากหากเด็กหยุดหายใจ

        •การเป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทสมองพิการ หรือเป็นผลมาจากสมองที่กำลังพัฒนาถูกทำลายก่อนคลอด ระหว่างคลอด หรือหลังคลอด 
       •การเคลื่อนไหว การพูด พัฒนาการล่าช้า เด็กซีพี มีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่าง ๆ ของสมองแตกต่างกัน
1.กลุ่มแข็งเกร็ง (spastic)
spastic hemiplegia อัมพาตครึ่งซีก
spastic diplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
spastic paraplegiaอัมพาตครึ่งท่อนบน
spastic quadriplegia อัมพาตทั้งตัว
2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง(athetoid , ataxia)
        - athetoid อาการขยุกขยิกช้า ๆ หรือเคลื่อนไหวเร็วๆที่เท้า แขน มือ หรือที่ใบหน้าของ เด็กบางรายอาจมีคอเอียง ปากเบี้ยวร่วมด้วย
        - ataxia มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
3. กลุ่มอาการแบบผสม (Mixed)
โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ (Orthopedic)
        - ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น เท้าปุก (Club Foot) กระดูกข้อสะโพกเคลื่อนอัมพาตครึ่งท่อนเนื่องจากกระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด (Spina Bifida)
       - ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการด้วยโรคติดเชื้อ (Infection) เช่น วัณโรค กระดูกหลังโกง กระดูกผุ เป็นแผลเรื้อรังมีหนอง เศษกระดูกผุ
       - กระดูกหัก ข้อเคลื่อน ข้ออักเสบ
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ 
มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
ท่าเดินคล้ายกรรไกร
เดินขากะเผลก หรืออึดอาดเชื่องช้า
ไอเสียงแห้งบ่อย ๆ
มักบ่นเจ็บหน้าอก บ่นปวดหลัง
หน้าแดงง่าย มีสีเขียวจางบนแก้ม ริมฝีปากหรือปลายนิ้ว
หกล้มบ่อย ๆ
หิวและกระหายน้าอย่างเกินกว่าเหตุ

ความรู้ที่ได้รับ 
  •        ความรู้ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นความรู้เกี่ยวกับประเภทของเด็กพิเศษ

การนำไปใช้
  •       ใช้ในการเรียนการสอนในอนาคต เพื่อนทำความเข้าใจแก่เด็กพิเศษมากขึ้น
  •       ให้ความรู้ผู้ปกครองในการทำความเข้าใจเด็กที่มีความต้องการพิเศษมากขึ้น

การประเมิน
  •       ผู้สอน แต่งกายสุภาพเรียร้อย มากตรงเวลา และสอนสนุก ผ่อนคลาย
  •       ผู้เรียน ตั้งใจเรียน และมีการซักถามผู้สอนตลอดหากไม่เข้าใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น